Voyah Free เอสยูวีพรีเมียมรุ่นใหม่ วิ่งได้ไกลถึง 1,221 กิโลเมตร

Voyah Free เอสยูวีขนาดกลางระดับพรีเมียมออกสู่ตลาดแดนมังกรแล้วกับดีไซน์ที่มีการออกแบบให้สปอร์ตยิ่งขึ้น แถมขุมพลังยังเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าทำให้มันวิ่งได้ไกลถึง 1,221 กิโลเมตร

Voyah Free รุ่นใหม่มีเฉพาะรุ่น EREV หรือ Extended-Range EV ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 150 แรงม้าทำหน้าที่สร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีหรือส่งไปยังมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนล้อของรถโดยตรง ส่วนการขับเคลื่อนรถใช้มอเตอร์หน้ากำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์หลัง 272 แรงม้า แรงบิด 410 นิวตัน-เมตร มีกำลังรวม 480 แรงม้า แรงบิด 720 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม.

สำหรับแบตเตอรีที่มากับรถมีขนาด 39.2 kWh สามารถให้ระยะการเดินทางได้ 210 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟจนเต็มโดยที่เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงาน ขณะที่ระยะการเดินทางรวมจากการใช้เครื่องยนต์สร้างพลังงานไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันจากถังความจุ 56 ลิตรอยู่ที่ 1,221 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนปรับโฉมซึ่งทำได้ 960 กิโลเมตร

ด้านรูปลักษณ์ภายนอกของรถเอสยูวีรุ่นใหม่มีความสปอร์ตมากขึ้นจากกันชนหน้าที่ดุดันมากขึ้นพร้อมกับมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่และสปอยเลอร์หน้า นอกจากนี้ไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งของรถยังเชื่อมต่อกันด้วยแถบไฟ LED เหนือกระจังหน้าที่ถูกออกแบบใหม่สีดำขนาดเล็กลง นอกจากนี้รถรุ่นใหม่ยังมากับล้อลาย 5 ก้านสีดำ ขณะที่ด้านหลังของรถถูกปรับดีไซน์ใหม่มีสปอยเลอร์ปลายหลังคาและกันชนหลังที่สปอร์ตขึ้น โดยรถยังคงมีความยาว 4,905 มม. กว้าง 1,950 มม. สูง 1,645 มม. ไม่เปลี่ยนแปลง

ในส่วนของห้องโดยสารซึ่งมีรูปแบบเบาะ 5 ที่นั่งมีการออกแบบคอนโซลกลางใหม่ให้เรียบมากขึ้นพร้อมกับมี 2 แท่นชาร์จไร้สาย ขณะที่สวิตช์เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนของรถอยู่ที่แกนพวงมาลัย D-Shape 3 ก้าน รวมไปถึงยังมีถึง 3 จอขนาด 12.3 นิ้วที่ด้านหน้าทั้งจอแสดงข้อมูลผู้ขับ จอตรงกลาง และด้านหน้าผู้โดยสารของเบาะหน้า รวมทั้งยังมีจอทัชสกรีนสำหรับการควบคุมของผู้โดยสารที่เบาะหลังอยู่ที่ด้านหลังคอนโซลกลาง

รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่มีช่วงล่าง Air Suspension ที่สามารถเพิ่มความสูงของรถขึ้น 100 มม. พร้อมมีออฟชันแพกเก็จ Apollo Highway Driving Pro ที่มีการทำงานช่วยขับต่างๆ ให้เลือกติดเพิ่ม

Voyah Free รุ่นใหม่มีเกรดเดียวขายในราคา 266,900 หยวนหรือประมาณ 1,284,000 บาทลดลงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่มีระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกันซึ่งมีราคา 333,600 หยวนหรือประมาณ 1,600,000 บาทพอสมควร