Denza N8 เอสยูวีไฮบริดเสียบปลั๊ก วิ่งใช้งานได้ไกลถึง 1,030 กิโลเมตร กับค่าตัวเริ่มต้น 1.54 ล้าน

Denza N8 รถยนต์เอสยูวีจากแบรนด์พรีเมียมของ BYD พร้อมลงสู่สังเวียนเอสยูวีขนาดใหญ่ กับราคาค่าตัว 319,800-326,800 หยวน หรือประมาณ 1,540,000-1,580,000 บาท

Denza N8 มาในขนาดของรถที่มีความยาว 4,949 มม. กว้าง 1,950 มม. และสูง 1,725 มม. มีระยะฐานล้อยาว 2,830 มม. สำหรับการทำตลาดในกลุ่มรถเอสยูวีขนาดกลางถึงใหญ่ ด้านการออกแบบอยู่บนพื้นฐานของภาษาการออกแบบ π-Motion ของ BYD โดยด้านหน้าของรถมีความโดดเด่นด้วยไฟ Daytime Running Light ในลักษณะคล้ายเขี้ยวที่กันชนหน้า ส่วนด้านหลังของรถมีสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ ไฟท้ายแบบใส รวมทั้งแผงกันกระแทกใต้กันชนหลัง

ส่วนระบบขับเคลื่อนไฮบริดของรถประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T กำลัง 137 แรงม้า แรงบิด 231 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แยกอยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังของรถ มีกำลังรวม 483 แรงม้า สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 190 กม./ชม. และรถเอสยูวีรุ่นใหม่มาพร้อมกับระบบควบคุมตัวรถอัจฉริยะ Cloud Chariot-C ของ BYD ช่วยเพิ่มความสามารถในการลุยเส้นทางออฟโรดของรถ

มอเตอร์ไฟฟ้าของรถใช้พลังงานจากแบตเตอรีแพกต์แบบ Blade ของ BYD ขนาด 45.8 kWh ให้ระยะการเดินทางโดยใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 216 กิโลเมตร มีระยะการเดินทางโดยใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้ารวมถึง 1,030 กิโลเมตร สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 6.45 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีของรถทำได้ทั้งการชาร์จปกติหรือชาร์จแบบเร็ว 90 kW นอกจากนี้รถเอสยูวียังมาพร้อมกับระบบ VtoL จึงทำให้สามารถเป็นสถานีไฟฟ้าเคลื่อนที่จ่ายไฟ 6 kW ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้

ห้องโดยสารของรถมาในสไตล์เรียบสะอาดตา โดยมีจอทัชสกรีนตรงกลางขนาด 15.6 นิ้วความละเอียด 2.5 K และจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งทั้ง 2 จอในห้องโดยสารมาในสไตล์ลอยตัวเหนือแผงแดชบอร์ด นอกจากนี้รถเอสยูวีไฮบริดยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านที่มีด้านล่างแบน ระบบ DenzaLink 5G และลำโพงจาก Dynaudio ส่วนรูปแบบเบาะในห้องโดยสารมีทั้งแบบ 5, 6 และ 7 ที่นั่งให้เลือก

ขณะที่ระบบช่วยขับที่มาพร้อมกับรถเป็นเลเวล 2+ โดยมีการทำงานอย่างระบบเตือนก่อนการชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งใช้เซ็นเซอร์ 24 ตัว รวมทั้งเรดาร์ 5 มิลลิเมตร 6 กล้อง และ 12 เรดาร์อัลตราโซนิก